ปัจจุบันนี้มีสาวๆ หลายคนที่หันมาใช้วิธีทางธรรมชาติในการดูแลบำรุงผิวหน้ามากยิ่งขึ้น เพราะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองใดๆ และไม่มีสารเคมีตกค้าง ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาในระยะหนึ่งแต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานมากกว่า โดยส่วนประกอบสำคัญที่มักจะถูกนำมาเป็นสูตรพอกหน้าก็คือ น้ำผึ้งนั่นเอง เพราะน้ำผึ้งนั้นมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นมอยส์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผิวหน้ามีความเนียนนุ่น และชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น และยังมีคุณสมบัติช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ยิ่งนำมาผสมกับสมุนไพร หรือผลไม้ชนิดอื่น ก็ยิ่งได้คุณประโยชน์ที่มากขึ้นไปอีก และนี่คือสูตรน้ำผึ้งพอกหน้าที่ได้รับความนิยมจากสาวๆ มากที่สุด ที่เราได้รวบรวมมาฝากกัน : วิธีทําให้หน้าขาว
พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง ขจัดเซลล์ผิวเก่า
สูตรน้ําผึ้งทาหน้านี้จะเป็นสูตรสครับหน้า โดยใช้น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลทรายแดงมาเป็นสครับ ซึ่งน้ำตาลจะช่วยในการกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำและเกิดความไม่เรียบเนียนเท่าที่ควร นอกจากนี้น้ำตาลยังช่วยในการกำจัดไขมันส่วนเกินที่ออกมาจากรูขุมขนได้เป็นอย่างดี ส่วนน้ำผึ้งจะทำหน้าที่สมานผิวที่ถูกขัดเซลล์ผิวออกให้เกิดความเนียนนุ่มมากขึ้นและกระจ่างใสมากขึ้นกว่าเดิม
สิ่งที่ต้องเตรียม
- น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย
- น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีมาร์คหน้าด้วยน้ำผึ้ง
นำน้ำผึ้งเทลงไปในน้ำตาลแล้วผสมให้เข้ากัน (ไม่ต้องกวนจนน้ำตาลละลาย) จากนั้นให้นำมาพอกให้ทั่วผิวหน้า แล้วสครับเบา ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาที แล้วทิ้งไว้อีก 5 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเย็น ในกรณีที่ใบหน้ามีสิวอักเสบ หรือสิวหัวช้างขึ้นอยู่นั้น ควรเว้นบริเวณนี้ไว้ เพื่อไม่ให้เป็นการกระตุ้นให้สิวอักเสบมากกว่าเดิม ซึ่งจะทิ้งรอยแดงไว้ เมื่อล้างหน้าเสร็จแล้วจะรู้สึกได้ทันทีว่าใบหน้าดูขาวเนียนมากกว่าเดิม สูตรพอกหน้าด้วยน้ําผึ้งนี้ ควรทำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
มาร์คหน้าด้วยน้ำผึ้ง ลดเลือนจุดด่างดำ
สำหรับใครที่มักจะมีปัญหาสิวขึ้นตามใบหน้า แล้วทิ้งรอยแดงหรือจุดจ่างดำไว้ ต้องใช้สูตรพอกหน้านี้เลย เพียงแค่นำน้ำผึ้งบริสุทธิ์ มาผสมกับว่านหางจระเข้ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน E ซึ่งจะช่วยเข้าไปเติมน้ำให้กับผิวให้เนียนเด้งมากขึ้น และยังช่วยลดจุดด่างดำต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยได้อีกด้วย เมื่อนำมาผสมกับน้ำผึ้ง ก็จะทำให้ใบหน้ามีความชุ่มชื้นถึงที่สุด
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ว่านหางจระเข้ 1-2 แว่น
- น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนชา
วิธีมาร์คหน้าด้วยน้ำผึ้ง
นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก แล้วล้างออกจนหมดเมือก จะได้วุ้นใส ๆ ภายใน จากนั้นให้นำมาบดหรือตำให้ละเอียด แล้วเติมน้ำผึ้งลงไป นำมาพอกหน้าทิ้งไว้อย่างน้อย 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะรู้สึกว่าใบหน้ามีความตึงกระชับมากยิ่งขึ้น มีความเนียนใสมากยิ่งขึ้น จุดด่างดำก็ดูจางลงไป สูตรมาร์คหน้าด้วยน้ําผึ้งนี้หากทำเป็นประจำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากจะแก้ปัญหาจุดด่างดำ รอยแดงได้อย่างอยู่หมัดแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการปรับสภาพสีผิวได้เป็นอย่างดี หากต้องการความสดชื่นให้กับใบหน้า และเพื่อเป็นการคลายความร้อน ก็ขอแนะนำให้นำว่านหางจระเข้ไปแช่เย็นก่อนนำมาผสมกับน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งพอกหน้า กระชับรูขุมขนและลดความมัน
สำหรับผู้หญิงบางคนที่มีปัญหาเรื่องของผิวหน้ามัน มักจะมาจากสาเหตุของการมีรูขุมขนกว้าง จนทำให้ใบหน้ามีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ วิธีแก้ปัญหาก็สามารถทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง ผสมกับแตงกวา ที่มีส่วนประกอบของน้ำและวิตามิน E มากกว่า 80% ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้ามีความอิ่มน้ำมากยิ่งขึ้น ช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ และกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ซึ่งจะทำให้การผลิตน้ำมันบนใบหน้าน้อยลงไปด้วย
สิ่งที่ต้องเตรียม
- แตงกวา 1 ลูก
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
- ผ้าขาวบาง
- เครื่องปั่นไฟฟ้า
วิธีมาร์คหน้าด้วยน้ำผึ้ง
นำแตงกวามาล้างให้สะอาด แล้วปั่นให้ละเอียด หากไม่มีเครื่องปั่น สามารถใช้มีดหั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วบดด้วยมือได้ นำแตงกวาที่บดแล้วมากรองเอาแต่น้ำด้วยผ้าขาวบาง แล้วเทน้ำผึ้งผสมลงไป สูตรหน้าใสด้วยน้ําผึ้ง ควรพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะทำให้ผิวหน้าดูกระชับมากขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่พอกหน้า หากต้องการเห็นผลให้เร็วยิ่งขึ้น ควรนำแตงกวาไปแช่เย็นก่อนนำมาบด หรือนำน้ำแข็งมาลูบหน้าหลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว จะพบว่ารูขุมขนกระชับมากขึ้น และหน้าก็มันน้อยลงกว่าเดิม
สูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง เพื่อผิวหน้ากระจ่างใส
สูตรน้ำผึ้งพอกหน้านี้เป็นสูตรโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากการเป็นการใช้สมุนไพรที่สามารถหาได้ง่าย ๆ ในห้องครัว ไม่ว่าจะเป็นมะขามเปียก ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเพิ่มความขาวใสให้กับใบหน้าหน้า ส่วนขมิ้น ก็จะปรับสภาพสีผิวให้ค่อย ๆ กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น และยังช่วยรักษาปัญหาสิว เนื่องจากขมิ้นมีสารที่ช่วยในการฆ่าเชื้อได้เป็นอย่างดี เมื่อนำมาผสมกับน้ำผึ้ง จึงกลายเป็นสูตรเพื่อผิวกระจ่างใส ที่ไม่ควรพลาดทดลองทำเป็นอันขาด
สิ่งที่ต้องเตรียม
- มะขามเปียก 1 ก้อน
- ผงขมิ้น 1 ช้อนชา
- น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนชา
วิธีมาร์คหน้าด้วยน้ำผึ้ง
นำมะขามเปียกมาคั้นกับน้ำอุ่นให้ได้น้ำมะขามเปียกแบบเข้มข้น จากนั้นให้นำมาผสมกับผงขมิ้นและน้ำผึ้ง นำมาพอกหน้าไว้ประมาณ 10-15 นาที ก่อนล้างควรใช้นิ้วขัดถูเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรพอกหน้านี้ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะทำให้เห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น แต่อาจจะต้องระวังในเรื่องของการระคายเคืองจากมะขามเปียกสำหรับสาวที่มีปัญหาผิวหน้าบาง เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่ทำให้เกิดปัญหากับผิวหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่
สูตรน้ำผึ้งพอกหน้า รักษาผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย
นอกจากปัญหาผิวหน้ามันแล้ว ปัญหาที่สาวๆ มักจะเจออีกอย่างก็คือการมีผิวหน้าที่แห้งจนลอกเป็นขุยนั่นเอง ถ้าหากใครที่มีปัญหาผิวหน้าแห้งมาก ก็อาจพบการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ เพราะฉะนั้นจึงควรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งผสมกับกล้วยหอม ที่เต็มไปด้วยโปรตีนและวิตามินมากมาย ซึ่งจะช่วยเข้าเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวให้มีความเนียนนุ่มมากขึ้น และลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า
สิ่งที่ต้องเตรียม
- กล้วยหอมสุก 1/2 ลูก
- น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนชา
วิธีมาร์คหน้าด้วยน้ำผึ้ง
นำกล้วยหอมสุกมาบดให้ละเอียด แล้วเทน้ำผึ้งผสมลงไป คนผสมให้เข้ากันดี แล้วนำมาพอกหน้าไว้ให้ทั่วไปจนถึงบริเวณลำคอ แล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 20-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเย็น จะรู้สึกได้ทันทีว่าใบหน้าเนียนนุ่มเด้งมากยิ่งขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีปัญหาผิวหน้าแห้งแค่ไหนก็ตาม ควรทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่อาจพบปัญหาผิวแห้งมากขึ้นกว่าเดิม และเมื่อล้างหน้าเรียบร้อย ก็ควรรีบทาครีมบำรุงทันที จะช่วยทำให้ใบหน้าชุมชื้นเป็นระยะเวลานานมากกว่าเดิมได้
น้ำผึ้งพอกหน้า ลดปัญหาสิว
ไม่ว่าจะสิวเสี้ยน สิวหัวขาว สิวอักเสบ สูตรนี้เอาอยู่หมด วิธีการเตรียมส่วนผสมก็ง่ายๆ เพียงแค่ใช้น้ำผึ้งผสมกับอบเชยเพียง 2 อย่างเท่านั้น อบเชยมีสรรพคุณที่ช่วยในเรื่องของการกำจัดแบคทีเรีย และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวทุกชนิด รวมทั้งยังช่วยในเรื่องของการไหลเวียนโลหิตบนใบหน้าให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ใบหน้ามีเลือดฝาดอมชมพู ดูมีสุขภาพดี และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยขึ้นก่อนวัยอันควรอีกด้วย
บทความดูแลใบหน้า